top of page
  • Alistair Chevalier

เนยเอชิเร่ แก่นแท้ของมรดกทางศิลปะและความเป็นเลิศด้านการทำอาหารของฝรั่งเศส

ความลับในการรังสรรอาหารและขนมหวานที่สมบูรณ์แบบด้วยเนยเอชิเร่

เลอ บอนเนอร์ ร้านขนมฝรั่งเศสใจกลางเมืองจังหวัดอุดรธานี คือสถานที่ที่มุ่งมั่นในการสร้างสรรค์เมนูต่างๆ เพื่อความยอดเยี่ยมแห่งรสชาติ หนึ่งในวัตถุดิบสำคัญที่เชฟเลือกใช้ คือ เนยจากเอชิเร่ ซึ่งได้รับการยกย่อว่าเป็น ‘ราชินีแห่งเนย’ ที่โดดเด่นในเรื่องของคุณภาพที่หาใดเปรียบได้ ด้วยรสชาติของเนยชั้นเลิศจึงเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญที่เป็นแก่นแห่งรสสัมผัสของขนมอันเลิศรสของเลอ บอนเนอร์ ด้วยสูตรขนมที่รังสรรขึ้นอย่างพิถีพิถัน   ผสมผสานกับความเชี่ยวชาญของเชฟ จนทำให้ได้ความลงตัวอย่างน่ามหัศจรรย์ เมื่อรวมเข้ากับคุณลักษณะเฉพาะของเนยเอชิเร่ ส่งผลให้ได้รสสัมผัสที่กลมกลืนกันอย่างปราณีตที่ดึงดูดประสาทสัมผัส การผสานที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถันนี้เป็นมากกว่าความสุขในการทำขนมหรืออาหาร แต่เป็นข้อพิสูจน์แห่งความทุ่มเทของในการรักษาวัฒนธรรมทางรสสัมผัสและส่งมอบคุณภาพที่เหนือชั้นให้กับลูกค้าที่ทรงคุณค่าของเลอ บอนเนอร์




ความเป็นเลิศที่รังสรรขึ้นตั้งแต่ปี 1891

ในหมู่บ้านเอชิเร่ (Échiré) ประเทศฝรั่งเศส ริมแม่น้ำ Sèvre Niortaise อันเงียบสงบ คือสถานที่ซึ่งการผลิตเนยได้รับการยกระดับขึ้นให้เป็นดังงานศิลปะ นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี พ.ศ.2434 โดย Mr. Du Dresnay เนยเอชิเร่ก็มีความหมายเฉกเช่นหนึ่งในองค์ประกอบทางการทำอหารและความเป็นเลิศของฝรั่งเศส จนทำให้ได้รับสมญานามอันทรงเกียรติว่าเป็น ‘ราชินีแห่งเนย’


การถือกำเนิดของสัญลักษณ์แห่งการทำอาหาร

ผลิตภัณฑ์นมเอชิเร่เปลี่ยนเป็นสหกรณ์ในปี พ.ศ. 2437 และได้ผลิตเนยคุณภาพสูงโดยการนำกรรมวิธีดั้งเดิมที่ใช้กันมาตั้งแต่แรกเริ่ม โดยการปั่นด้วยถังไม้สัก เพื่อให้ได้เนยที่มีเนื้อสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งการผลิตเนยให้ได้ 1 กิโลกรัมนั้นจะต้องใช้น้ำนมจากวัวกว่า 22 ลิตร ซึ่งตอกย้ำให้เห็นถึงคุณภาพที่หาใครเปรียบได้ในกระบวนการผลิต


ความลับเบื้องหลัง ‘ราชินีแห่งเนย’

รสชาติและเนื้อสัมผัสอันเป็นเอกลักษณ์ของเนยเอชิเร่เกิดจากการบ่มเนยจนได้ที่ โดยใช้เวลานานกว่า 18 ชั่วโมง ในกระบวนการผลิตประกอบกับการปั่นอย่างพิถีพิถันด้วยเวลาสองชั่วโมงครึ่งในถังไม้สัก ทำให้ได้เนยที่นุ่ม มีรสสัมผัสคล้ายฮาเซลนัท ผู้เชี่ยวชาญในการผลิตเนยของเอชิเร่คือผู้ที่จะคอยดูแลในขั้นตอนนี้เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเนยที่ได้ออกมานั้นเป็นไปตามมาตรฐานของเอชิเร่


ความร่วมมือเพื่อความยั่งยืน

ในปี 1997 การควบรวมกิจการของ Échiré Dairy กับผู้ผลิตชีส Sèvre & Belle ถือเป็นก้าวสำคัญสู่แนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน พวกเขาได้จัดทำกฎบัตรคุณภาพสำหรับการผลิตนม โดยมุ่งเน้นไปที่ความปลอดภัยของอาหาร สวัสดิภาพสัตว์ การเคารพสิ่งแวดล้อม และความมุ่งมั่นที่ไม่ใช่จีเอ็มโอ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาคุณภาพของเนย Échiré


การยอมรับในระดับโลกที่มีรากฐานมาจากท้องถิ่น

เนยเอชิเรยังคงรักษารากฐานที่แข็งแกร่งของท้องถิ่นไว้ได้ แม้ว่าจะใช้บนโต๊ะอาหารและห้องครัวทั่วโลกก็ตาม Coopérative Laitière de la Sèvre ซึ่งมีฟาร์มแพะและวัว 120 แห่ง รับประกันว่านมสำหรับเนย Échiré มาจากท้องถิ่น พื้นที่อันเป็นเอกลักษณ์ของภูมิภาคที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อคุณภาพของนม เพื่อรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของเนย


เรื่องราวเบื้องหลังคุณภาพ

แก่นแท้ของเนยเอชิเรยังอุดมไปด้วยเรื่องราวของผู้ผลิตในท้องถิ่นและแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน ตั้งแต่อาหารที่ไม่ใช่จีเอ็มโอ อาหารปราศจากน้ำมันปาล์ม ไปจนถึงการใช้พลังงานแสงอาทิตย์และสวัสดิภาพสัตว์ ฟาร์มแบบครอบครัวเหล่านี้มีส่วนอย่างมากต่อคุณภาพของนม


การรับรองความเป็นเลิศ

ในปี 2013 ไซต์ Échiré ได้รับการรับรองจาก IFS ซึ่งยืนยันถึงความปลอดภัยและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ การรับรองนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความยึดมั่นในมาตรฐานสูงสุดด้านความปลอดภัยและคุณภาพอาหารของ Échiré


การสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นยังคงดำเนินต่อไป

เนยเอชิเรมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน วิธีการผลิตแบบช่างฝีมือ และความมุ่งมั่นต่อความยั่งยืน ที่เป็นมากกว่าแค่ความสุขในการทำอาหาร แต่สิ่งเหล่านี้ยังถือว่าเป็นมรดกแห่งความเป็นเลิศทางศิลปะของฝรั่งเศส โดยแสดงถึงความทุ่มเทและฝีมือที่จำเป็นในการผลิต 'ราชินีแห่งเนย' แต่ละองค์ประกอบของเนย Échiré บอกเล่าเรื่องราวของประเพณี คุณภาพ และรสชาติที่อยู่เหนือความสามัญ ที่ซึ่งยังคงดึงดูดนักชิมและเชฟทั่วโลกอย่างมหัศจรรย์


Commenti


bottom of page